ak พาเที่ยว... ทะเลสตูล
ตอน 1 : เดินทาง - ตะรุเตา - เกาะไข่ - ผาชะโด
 
และแล้ว...วันที่รอคอยก็มาถึงจะได้ไปเห็นทะเลสตูลกะเค้าซะทีหลังจากได้ยินคำร่ำลือมานาน เช้านี้เราสองคนตื่นกันตั้งแต่ตีสี่ครึ่งยังไม่ทันได้อาบน้ำรถลีมูซีนก็มาจอดหน้าบ้านซะแล้วววว ช่างแสนดีจริงๆ นัดตีห้าครึ่งมาซะตั้งแต่ยังไม่ตีห้าเราเลยรีบกันสุดฤทธิ์อาบน้ำแต่งตัวเช็คข้าวของเรียบร้อยออกจากบ้านตีห้าสิบห้า เช้าขนาดนี้นั่งหลับแป๊บเดียวก็ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ

เช็คอินเรียบร้อยเดินเล่นซํกแป๊บก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง เพิ่งจะเคยนั่ง Business Class ก็วันนี้ ไม่ใช่ว่าเงินเหลือเฟือนะแต่พอดีแลกไมล์ ROP มา ไหนๆ ไมล์ก็จะหมดอายุแล้วเลยแลกซะให้เหลือทิ้งน้อยลงหน่อย

พอขึ้นเครื่องปุ๊บคุณแอร์คนสวยก็เสริฟหนังสือพิมพ์ เสริฟน้ำ เสริฟผ้าร้อนให้เช็ดมือ แหมๆ บริการดีจริงๆ พอเครื่องขึ้นเรียบร้อยก็ได้เวลามื้อเช้าน่ากิ๊นน่ากินเป็นข้าวต้มปลา กะปาท่องโก๋เสริฟพร้อมนมข้นหวานให้จิ้มถูกใจจริงๆ

















กินอิ่มนั่งอ่านหนังสือไปได้นิดเดียวคุณกัปตันก็บอกว่าจะถึงสนามบินหาดใหญ่แล้วเร็วดีจริงๆ แปดโมงนิดๆ เราก็ถึงหาดใหญ่โดยสวัสดิภาพรับกระเป๋าเรียบร้อยลากกระเป๋าใบใหญ่ยักษ์ออกมาขึ้นสองแถวหน้าสนามบินไปลงหน้าตลาดกิมหยงต่อรถกะป้อไปขึ้นรถตู้ที่สถานีรถไฟหาดใหญ่เพื่อจะไปท่าเรือปากบารา

ก่อนขึ้นรถตู้เก่งแวะซื้อคอนแทคเลนส์เตรียมใส่ตอนดำน้ำ ไม่ได้วัดสายตาตั้งนานสายตาเก่งสั้นเพิ่มขึ้นจาก 100 กะ 150 เป็น 175 กะ 200 แล้วเหอเหอ... มิน่าเดี๋ยวนี้ไม่ใส่แว่นมองอะไรไม่ค่อยชัดเล๊ยยยย

นั่งหลับๆตื่นๆ อยู่บนรถตู้สองชั่วโมงก็ถึงท่าเรือปากบารา รีบหาซื้อตั๋วเรือรอบสิบเอ็ดโมงครึ่งของภูมิพัฒน์ตามคำแนะนำของโกหงวนที่ให้เราขึ้นเรือรอบสิบเอ็ดครึ่งไปลงตะรุเตาแวะเที่ยวซักสองชั่วโมงแล้วค่อยขึ้นเรือรอบบ่ายครึ่งของภูมิพัฒน์จากเกาะตะรุเตาไปหลีเป๊ะ ปรากฎว่าเรือภูมิพัฒน์เต็มซะแล้วเก่งเลยต้องซื้อตั๋วสปี๊ดโบ๊ตของนนทศักดิิ์แทนแล้วบอกให้เค้าช่วยแวะตะรุเตานานหน่อยให้เราเดินเล่นถ่ายรูป

กว่าจะได้ออกจากท่าเรือเกือบเที่ยง แค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงเกาะตะรุเตาเก่งก็รีบทำเวลาเดินเล่นถ่ายรูป ส่วนคุณหมูยักษ์ก็ทำเวลาเหมือนกันแต่ทำเวลาในการกินมาม่า อิอิ

















จากตะรุเตาเรือไปแวะให้เราถ่ายรูปกันที่เกาะไข่... เกาะที่มีซุ้มประตูหินธรรมชาติที่เป็นสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ที่มาของชื่อเกาะไข่บางคนก็ว่ามาจากหาดทรายที่ขาวสะอาดประดุจเปลือกไข่ไก่และอีกทางหนึ่งก็ว่ามาจากเต่าทะเลมักจะขึ้นมาวางไข่บนหาดทรายนี้... เลยได้ชื่อว่า เกาะไข่














เรือจะจอดแวะที่เกาะไข่ให้สิบห้านาทีแต่เดินกันไม่ถึงสิบนาทีก็กลับขึ้นเรือกันหมดเพราะแดดร้อนซะเหลือเกิน... ออกเดินทางกันต่อไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเราก็ถึงที่หมายของทริปนี้...​เกาะหลีเป๊ะ 

เรือสปี๊ดโบ๊ตจอดส่งเรากลางทะเลหน้าหาดพัทยาให้ต่อเรือหางยาวไปแต่ละหาดเอง ค่าโดยสารเรือหางยาวที่หลีเป๊ะจะใกล้ไกลยังไงคิดห้าสิบบาทเท่ากันหมด เราสองคนพักที่เมาท์เทนรีสอร์ทอยู่อีกฝั่งของเกาะแต่นั่งเรือหางยาวมาแค่สิบนาทีก็ถึง

พอถึงรีสอร์ทก็ทานมื้อกลางวันกันก่อนเลย ดูราคาอาหารในเมนูแล้วก็ไม่แพงเท่าไหร่ ราคาเกาะตามปกติอาหารจานเดียว 60 บาท น้ำสิงห์ขวดใหญ่ 25 บาท โค้กกระป๋องละ 20












กินอิ่มเข้าห้องอาบน้ำพักผ่อนนอนเล่นให้สดชื่น พอสี่โมงกว่าก็ได้เวลาไปเกาะอาดังกัน ตั้งใจจะไปชมวิวและรอถ่ายรูปพระอาทิตย์บนผาชะโด ซึ่งอดีตเคยเป็นจุดสังเกตการณ์ของโจรสลัดเพื่อเข้าโจมตีเรือสินค้า อ่านข้อมูลมาเค้าบอกทางขึ้นไม่โหดมากใช้เวลาเดินประมาณ 40 นาทีก็ถึง แต่เราสองคนเดินกันจนเหนื่อยก็ยังไม่ถึงซะทีสุดท้ายเลยหยุดอยู่กลางทางที่พอจะมีวิวให้ถ่ายรูปได้แล้วก็ยืนถ่ายกันอยู่ตรงนั้น ตัดสินใจไม่ไปกันต่อเพราะไม่อยากจะเหนื่อยกันเกินไป...​เปรียบเทียบรูปขอคุณ ninue ในพันทิปที่เค้าขึ้นไปถึงกะของเราที่ยังไปไม่ถึง... ดูแล้วรู้สึกเลยว่าหนทางยังอีกยาวไกล หุุหุ












พอพระอาทิตย์เริ่มจะลับขอบฟ้าเราก็เดินลงมาเก็บภาพบรรยากาศชาดหาดกันก่อนจะมืด















ถ่ายไปได้ไม่กี่รูปแสงเริ่มหมดเราเลยขึ้นเรือหางยาวกลับไปลงที่หาดพัทยาเพื่อไปจองทริปดำน้ำวันพรุ่งนี้ ร้านดำน้ำที่หลีเป๊ะส่วนใหญ่เป็นของต่างชาติ ร้านแรกและร้านเดียวที่เราเข้าไปคุยคือร้าน Ocean Pro Divers เจ้าของเป็นคนแคนาดาแต่แฟนเป็นคนไทย พรุ่งนี้เค้าจะไปหินแปดไมล์กันเพราะวันนี้ไปมาแล้วเจอฉลามวาฬ ฟังแล้วก็อยากไปแต่ก็ตื่นเต้นกล้าๆ กลัวๆ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจจองเรียบร้อย

มื้อเย็นวันนี้เรากินกันที่ร้านวารินทร์ตามคำแนะนำของเพื่อนๆ ในพันทิป แล้วก็ไม่ผิดหวังอิ่ม อร่อยแถมไม่แพงอีกต่างหาก :)

กินอิ่มก็เดินกลับรีสอร์ทกันเห็นเค้าว่าไม่ไกลเดินไปเรื่อยๆ ก็ถึง แต่เราสองคนเดินกันจนเหนื่อยก็ยังไม่เห็นถึงซะทีแถมเก่งยังซุ่มซ่ามไปเตะก้อนหินเลือดออกอีก...​กว่าจะถึงรีสอร์ทเล่นเอาหมดเรี่ยวหมดแรง อาบน้ำ...​นอนเลย
เหอเหอ... เหนื่อยใช้ได้เลยแฮะวันนี้!
Mar 10, 2007